อัจฉริยะ กับ ความบ้า
|
โพสที่แล้วพูดถึงว่าการสร้างความเปลี่ยนแปลงเริ่มที่แรงจูงใจ นั่นคือ จะทำไปทำไม (Start with WHY) ยิ่งแรงจูงใจมีพลังมากเท่าไหร่ สิ่งที่บรรลุก็มีโอกาสไต่ระดับสูงมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องความเป็นความตายที่สร้างความเครียดรุนแรง ก็เป็นแรงส่งให้คนเราสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นลดน้ำหนัก 80 โล ใน 8 เดือน หรือทำงานที่สามเดือนคิดไม่ออก ให้เสร็จได้ภายในคืนเดียว แต่ถ้าเราไม่อยากรอให้ความเครียดมาลงแส้แบบนั้นล่ะ...มันมีทางอื่นที่เป็นแรงจูงใจแบบสร้างสรรค์หน่อยมั๊ย มีครับ...สิ่งนั้นก็คือ . ‘ความบ้า’ ครับ . ฟังดูไม่ค่อยมั่นใจว่ามันจะสร้างสรรค์กว่าความเครียดตรงไหน แต่ความบ้าในที่นี้หมายถึง ความคลั่งไคล้อะไรบางอย่างและลงมือทำแบบจริงๆ จังๆ ………………………………………….. ช่วงที่ผ่านมามีหนังเรื่อง 'The Current War' ชื่อไทยว่า 'สงครามไฟฟ้า คนขั้วอัจฉริยะ' เลยนึกถึง 2 ชื่อนี้ครับ เอดิสัน กับ เทสลา ผมนึกถึงเรื่องราวและคำพูดของ โทมัส เอดิสัน ที่เรารู้จักในฐานะผู้คิดค้นหลอดไฟฟ้า เขาเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงระดับโลก หลังจากที่เขาล้มเหลวมาเป็นหมื่นครั้ง ทำหลอดไฟฟ้าเจ๊งมาเป็นหมื่นหลอด ถ้าเป็นคนทั่วไปก็ต้องว่าบ้าแล้วล่ะครับ แต่เขากลับกล่าววาจาอันเป็นอมตะ ไว้ว่า “ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมค้นพบ 10,000 วิธีที่ไม่ได้ผลต่างหาก” แต่ในหนัง The Current War เอดิสันจะออกแนวด้านมืดที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนักนะครับ นอกจากเอดิสันในยุคก่อนแล้ว สำหรับผมเมื่อพูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย ‘ความบ้า’ ผมนึกถึง “เอดิสัน แห่งศตวรรษที่ 21” หรือ "โทนี่ สตาร์ก ในชีวิตจริง" ครับ เค้าคือ “อีลอน มัสก์” เจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา อันโด่งดัง เมื่อพูดชื่อ “อีลอน มัสก์” ขึ้นมา ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จักเค้าอย่างแน่นอน เพราะเค้าก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนในการช่วยเหลือทีมฟุตบอล ‘หมูป่า’ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงเมื่อเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ.2561 ถึงแม้ว่าเค้าจะต้องกลับบ้านไปโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้นำเครื่องมือพิสดารของเค้ามาใช้จริง ตามมาด้วยดราม่าเล็กน้อยกับฮีโร่ถ้ำหลวง แต่ชื่อของเค้าก็เป็นที่รู้จักคนไทยนับตั้งแต่วันนั้น ความอัจฉริยะของมัสก์เกิดจากความพยายามเรียนรู้ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กครับ เรียกได้ว่าขลุกอยู่กับหนังสือตลอดเวลาจนเป็นหนอนหนังสือเลย เชื่อไหมครับ? เป้าหมายที่เค้าตั้งไว้แน่วแน่เมื่ออายุได้ 14 ปี นั้น ฟังดูเพี้ยนไม่เบา มันมาจากที่เค้าได้อ่านหนังสือชื่อว่า The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy ซึ่งเป็นนิยายเกี่ยวกับการผจญภัยในอวกาศหลังจากที่โลกถูกทำลายโดยเอเลี่ยน หลังจากนั้นมัสก์ก็ตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้เลยว่า เค้าจะต้องรักษาการดำรงอยู่ของมนุษยชาติไว้ให้ได้เมื่อถึงวันสิ้นโลก นั่นคือการตั้งอาณานิคมบนดวงดาวอื่น!!! เป้าหมายคือไปตั้งรกรากที่ดาวอังคารครับ บ้าพอมั๊ยล่ะครับ อันนี้ไม่ใช่ Moonshot แต่เป็น Mars shot เลย คืือดวงจันทร์มันกระจอกไปแล้ว ไม่เป็นไรครับ เค้ารวย ทำอะไรก็ไม่ผิด อาจจะมีหลายคนคิดแบบเค้านะครับ แต่จะมีใครทำจริง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นเป้าหมายที่เกิดขึ้นตอนยังเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น แต่มัสก์เป็นคนที่แน่วแน่ และมุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเค้ายังคงเดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อให้เป้าหมายที่เขาตั้งใจไว้ประสบความสำเร็จให้ได้ เค้าเดินทางไปรัสเซียเพื่อขอซื้อจรวดขีปนาวุธโซเวียตที่ปลดประจำการแล้วเพื่อนำมาทำการทดลอง เวลาผ่านไป 1 ปี การเจรจาก็ล้มเหลว เพราะรัสเซียต้องการขายจรวดในราคาที่มัสก์มองว่ามันแพงเกินไป สุดท้ายเขาไม่ง้อรัสเซีย และตัดสินใจว่าจะสร้างจรวดขึ้นเอง!!! จะมีซักกี่คนในโลกกันที่คิดอะไรบ้าบอแบบนี้ออกมาได้ ซึ่งนี่คือที่มาของโครงการ Space X ซึ่งเป็นโครงการนำร่องธุรกิจอวกาศ และในขณะเดียวกันเขาก็ก่อตั้ง Tesla Motors รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ทั้งสองบริษัทนี้ก็ล้มลุกคลุกคลาน หวุดหวิดจะล้มละลายไปหลายครั้ง และการทดสอบจรวดของมัสก์ก็ทดสอบล้มเหลวไปถึง 3 ครั้ง และมีเงินเหลือสำหรับการทดสอบปล่อยจรวดอีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น หากล้มเหลว โครงการ Space X ก็จะไม่มีอีกต่อไป แต่ “โอกาส” ของเขามาถึงเมื่อการทดสอบปล่อยจรวดครั้งที่ 4 ประสบความสำเร็จ และเขาก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป จนในที่สุด NASA ก็ตกลงเซ็นสัญญาเพื่อสนับสนุนเงินทุน ทำให้ทั้ง SpaceX และ เทสลา รอดพ้นจากการล้มละลาย และเดินหน้าต่อไปได้ อีลอน มัสก์ ทำสิ่งที่ได้อ่านมาในวันเด็ก ลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง และทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ทั้งรถยนต์เทสลา รถยนต์ไฟฟ้าที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก และ SpaceX บริษัทขนส่งทางอวกาศที่สามารถลดต้นทุนการส่งดาวเทียมด้วยการนำจรวดกลับมาใช้ซ้ำได้ (Reusable Rocket) โครงการไฮเปอร์ลูปที่ปฏิวัติการเดินทางทางบกด้วยเวลาที่เร็วไม่แพ้เครื่องบิน และตอนนี้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัสก์ ก็คือการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร กำลังดำเนินการอย่างไม่หยุดหย่อน และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า...การขึ้นไปอยู่บนดาวอังคาร อาจจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป นี่แหละครับ ความบ้า ของเค้า “When I was in college, I wanted to be involved in things that would change the world. Now I am.” – Elon Musk “ตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษา ผมอยากเป็นผู้มีส่วนร่วมกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลก และตอนนี้ผมก็ได้เป็นแล้ว” - อีลอน มัสก์ …………………………………………………………. ‘ความเครียด’ ช่วยสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ ‘ความบ้า’ ก็เช่นกัน อันแรกเกิดจากสิ่งคุกคามภายนอก อีกอันเกิดจากแรงกระตุ้นภายใน แต่ทั้งสองสิ่งนำพาไปสู่จุดเดียวกัน นั่นคือ . Concentration - สมาธิ ความแน่วแน่ อีกคำที่ใกล้เคียงแต่ฟังดูง่ายกว่าคือ Focus สิ่งนี้แหละครับ แรงกระตุ้นเชิงบวกที่พูดถึงเมื่อคราวที่แล้ว แรงกระตุ้นที่รวมพลังทั่วร่างไปสู่จุดเดียว เป็นแรงสร้างสรรค์ก็ได้ ทำลายล้างก็ได้ . |
Vertical Divider
Author:
Saksit Sathanapong, Ph.D. Archive August 2019 STORY TELLING PROJECT รวบรวมแนวคิดจากหนังสือ "ตั้งสติ ให้สตรอง.. อย่าไว้ใจสมองของคุณ" มาจับประเด็นกับเรื่องราวจริงที่ทุกคนอาจเจอได้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เกิดกับตัวเอง เรื่องที่ 1 งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย...จริงดิ เรื่องที่ 2 ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น (นั้นไม่จริงเสมอไป) เรื่องที่ 3 นิทานก่อนนอน-ประตูและป่าแห่งความลังเล เรื่องที่ 4 วิ่งหายเจ็บใจ เรื่องที่ 5 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา เรื่องที่ 6 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา (ตอนที่ 2) เรื่องที่ 7 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา (ตอนที่ 3) เรื่องที่ 8 ปัญหาของความ 'ไม่เครียด' เรื่องที่ 9 เรามาถึงจุดนี้ได้ไง เรื่องที่ 10 อัจฉริยะ กับ ความบ้า เรื่องที่ 11 แก้ความเครียดด้วย WTF เรื่องที่ 12 ด้านลบ ของการ 'คิดบวก' เรื่องที่ 13 ปัญหาชีวิต แก้ด้วยการ 'คิดลบ' เรื่องที่ 14 'ชอลิ้วเฮียง' ในมุมที่ไม่เคยคิดถึง เรื่องที่ 15 Keystone Habits:วันนี้คุณทำกุศลหรือยัง แล้วติตตาม update กันเรืื่อยๆ นะครับ |