แก้ความเครียด ด้วย WTF
ทุกๆ วันที่ 1 ของเดือน หลายๆ ออฟฟิศมักจะเป็นวันเริ่มต้นการทำงานของสมาชิกใหม่ในองค์กร ลองนึกย้อนไปถึงวันแรกของการทำงานที่ชีวิตของเด็กจบใหม่จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลาย ๆ คนก็คง ตื่นเต้น หลาย ๆ คนก็คงจะกังวล เพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไรในออฟฟิศบ้าง บางคนอาจจะกังวลว่าบรรยากาศการทำงานจะเป็นอย่างไร บางคนอาจจะวิตกว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นยังไงบ้างนะ แล้วหัวหน้าจะดุไหม บางคนก็อาจจะกลัวว่าจะปรับตัวได้ไม่เร็วพอ บางคนอาจเครียดว่าจะทำงานผิดพลาด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นความเครียดที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ใสกิ๊ง หรือผู้บริหารระดับสูงไม่อยากให้เกิดแน่นอน นั่นก็คือ... ความเครียดเรื่องเวลา... การเข้าประชุมสาย ไปตามนัดเพื่อเจรจาทางธุรกิจสาย การไปไม่ทันนัดสัมภาษณ์งานก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่โหดร้ายต่อจิตใจไม่แพ้ใคร และนี่คือเรื่องราวของพนักงานคนหนึ่งในวันที่เค้ามาสัมภาษณ์งานครับ ............................................. ลองนึกสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ตอนเช้าทีไร เป็นต้องปวดหัวทุกที จริงไหมครับ? ยิ่งช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร มันชักจะรับไม่ได้เข้าไปทุกที ได้แต่โทษฟ้าโทษฝนไปตามเรื่องตามราว นัดสัมภาษณ์งาน 8 โมงครึ่ง (ใครกันนะ นัดเช้าขนาดนี้) เพื่อความชัวร์ก็ต้องคิดแล้วว่าจะเผื่อเวลาเดินทางสักกี่ชั่วโมงดี? 6 โมงเช้าดีไหม? หรือ 6 โมงครึ่งดี? ต้องคิดให้ดีด้วยนะ เพราะออกช้าไปแค่ 5 นาที ชีวิตบนถนนเปลี่ยนทันทีครับ ดังนั้นไปบนฟ้าดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่บนถนนอย่างเดียวด้วยนะครับที่ชีวิตเปลี่ยน ชีวิตที่ต้องแขวนอยู่บนท้องฟ้า และใต้ดินในกรุงเทพฯ ก็เป็นเรื่องน่าหวาดเสียวไม่ใช่น้อย ไอ้เราก็กะเวลาไว้แล้วว่า ออกจากบ้านเวลานี้ รถไฟฟ้าจะพาเราไปถึงที่นัดหมายเวลานี้สบายๆ แต่จู่ ๆ ในวันสำคัญกลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน... การจราจรคับคั่งในเส้นทางที่ต้องใช้เวลาจัดขบวนรถจนผู้โดยสารตกค้าง และล้นสถานี รถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้าไป 3 คันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นเลย เพราะสถานีคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจนล้นออกมาข้างนอก ดูท่าแล้วไม่รู้จะได้ขึ้นเมื่อไหร่ ระหว่างที่รอขบวนถัดไปอย่างร้อนใจ ก็จะเริ่มกังวล และเครียดไปต่าง ๆ นานาว่าถ้าไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าทำให้ผู้สัมภาษณ์รอนี่เรื่องใหญ่เลยนะนั่น? หรือว่าถ้าขอเลื่อนนัดไปอีกสักครึ่งชั่วโมงจะเป็นอะไรไหมนะ? จนกระทั่งขบวนที่ 4 วิ่งผ่านหน้าไปก็ตัดสินใจเด็ดขาด แว๊นไปก็ได้! แล้วจึงตัดสินใจวิ่งออกจากสถานีเพื่อไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์ ยังดีที่มีความโชคดีในโชคร้ายครับ อย่างน้อยก็หาวินที่ยอมไปส่งได้ แลกกับค่าวินเป็นร้อย ๆ แต่ก็ดีกว่าต้องไปสาย! ระหว่างที่ซ้อนไปก็คอยมองเวลาในขณะที่ลมตีหน้าพั่บ ๆ จนผมเสียทรง แต่ถ้าไปถึงที่หมายทัน ก็ยังพอมีเวลาเข้าห้องน้ำเพื่อแต่งตัวใหม่อีกรอบ และแล้วพี่วินก็พามาส่งถึงที่ จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วก็เดินเข้าไปนั่งรอ HR โทรมาพอดีแจ้งว่า ตอนนี้คณะกรรมการสัมภาษณ์หลายคนเจอเหตุการณ์เดียวกัน นั่นก็คือ...วิกฤตยามเช้าในชั่วโมงเร่งด่วน ขอเลื่อนเวลาสัมภาษณ์ไปอีก 1 ชั่วโมง "WTF !!" .............................................. เป็นไงครับ ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ คงต้องมีคำไม่สุภาพผุดขึ้นมาในหัวกันบ้างแน่ๆ สำหรับคนที่ไม่ทราบ WTF เป็นคำย่อที่แพร่หลายของคำสบถว่า "What the F*ck" ที่ต้องเซ็นเซอร์เพราะมันเป็นคำหยาบนะครับ แปลเป็นไทยก็คงประมาณว่า "เ_ี้ยอะไรวะเนี่ย" แต่ความคิดลบๆ มันอาจไม่ช่วยแก้ปัญหา หลายครั้งที่ทำให้เรื่องแย่เข้าไปอีก อย่างนั้นเราลองมาใช้ WTF ในความหมายอื่นๆ ดูมั่งดีมั๊ยครับ ตามภาพประกอบด้านบนเลยครับ ครั้งหน้ามาว่ากันในเนื้อหานะครับ .............................................. |
Vertical Divider
STORY TELLING PROJECT
รวบรวมแนวคิดจากหนังสือ "ตั้งสติ ให้สตรอง.. อย่าไว้ใจสมองของคุณ" มาจับประเด็นกับเรื่องราวจริงที่ทุกคนอาจเจอได้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เกิดกับตัวเอง เรื่องที่ 1 งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย...จริงดิ เรื่องที่ 2 ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น (นั้นไม่จริงเสมอไป) เรื่องที่ 3 นิทานก่อนนอน-ประตูและป่าแห่งความลังเล เรื่องที่ 4 วิ่งหายเจ็บใจ เรื่องที่ 5 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา เรื่องที่ 6 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา (ตอนที่ 2) เรื่องที่ 7 อะไรที่ 'เติมไฟ' ให้เรา (ตอนที่ 3) เรื่องที่ 8 ปัญหาของความ 'ไม่เครียด' เรื่องที่ 9 เรามาถึงจุดนี้ได้ไง เรื่องที่ 10 อัจฉริยะ กับ ความบ้า เรื่องที่ 11 แก้ความเครียดด้วย WTF เรื่องที่ 12 ด้านลบ ของการ 'คิดบวก' เรื่องที่ 13 ปัญหาชีวิต แก้ด้วยการ 'คิดลบ' เรื่องที่ 14 'ชอลิ้วเฮียง' ในมุมที่ไม่เคยคิดถึง เรื่องที่ 15 Keystone Habits:วันนี้คุณทำกุศลหรือยัง แล้วติตตาม update กันเรืื่อยๆ นะครับ |